Skin Quality

แชร์เคล็ดลับนางฟ้า อยากมี "ผิวแข็งแรง" ต้องทำยังไง?

Admin
Admin
July 23, 2025
0
Min read
Table of contents
Share

ผิวหน้าของเราในแต่ละวันต้องเจอทั้งแสงแดด ฝุ่นควัน และสิ่งเร้าต่าง ๆ ที่อาจทำให้เกิดอาการแพ้ เป็นผื่น หรือเป็นสิว ผิวแข็งแรง จึงเป็นสิ่งที่หลายคนอยากมีเพื่อจะได้ใช้ผิวหน้าได้อย่างมั่นใจ โดยไม่ต้องกลัวโทรมและไม่ต้องแต่เยอะ แต่จริง ๆ แล้วผิวแข็งแรง คืออะไร? สร้างได้อย่างไร? บทความนี้จะพาคุณไปหาคำตอบกัน

ผิวแข็งแรง คืออะไรกันแน่?

ผิวแข็งแรง คือ ผิวที่มีความสมดุล มีความชุ่มชื้น เรียบเนียน ยืดหยุ่น และสดใส โดยเป็นผิวที่สามารถเผชิญกับสิ่งเร้าต่าง ๆ ในแต่ละวันได้โดยไม่เกิดอาการแพ้ เป็นสิว หรือระคายเคือง โดยการมีดูแลผิวให้แข็งแรงอยู่เสมอจะช่วยลดความเสี่ยงของปัญหาผิวอย่าง ริ้วรอยก่อนวัย ได้อีกด้วย

ผิวที่แข็งแรง คือ ผิวที่มีปราการผิวแข็งแรง

ปราการผิว หรือ Skin Barrier คือ ชั้นเกราะป้องกันทางธรรมชาติที่ปกป้องเซลล์ผิวจากสิ่งแปลกปลอม พร้อมกับรักษาความชุ่มชื้นอยู่กับเซลล์ผิว เมื่อปราการผิวแข็งแรง ผิวจะสามารถปกป้องตัวเองจากแสงแดด มลภาวะ หรือสิ่งที่ก่อให้เกิดอาการแพ้ได้ดียิ่งขึ้น แต่หากปราการผิวอ่อนแอ ผิวของเราก็จะเกิดอาการระคายเคือง เป็นผื่น หรือเป็นสิวได้ง่ายขึ้น

อย่างไรก็ดี การมีผิวแข็งแรง ไม่ได้แปลว่าเราจะไม่เป็นสิว หรือไม่มีปัญหาอะไรเลย เพียงแต่แปลว่า ผิวจะสามารถฟื้นฟูตัวเองหรือกลับสู่สมดุลได้เร็ว เมื่อเจอเกิดการอักเสบหรือระคายเคืองเท่านั้นเอง

ลักษณะของผิวแข็งแรง vs ผิวอ่อนแอ

แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าผิวแข็งแรงหรืออ่อนแอ? เรามาลองเช็กดูลักษณะของผิวที่แข็งแรง vs ผิวที่มีความอ่อนแอกันก่อน

ลักษณะของผิวแข็งแรง

  • มีความชุ่มชื้น ไม่แห้งหรือมันเกินไป
  • สัมผัสเรียบเนียน สีผิวดูสม่ำเสมอ
  • ยืดหยุ่น กระชับ และดูเปล่งปลั่ง
  • ไม่แพ้หรือระคายเคืองง่ายแม้เจอกับสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลง
  • ฟื้นฟูตัวได้รวดเร็วเมื่อเผชิญมลภาวะหรือแสงแดด

ลักษณะของผิวอ่อนแอ 

  • ผิวรู้สึกแสบหรือคัน แม้จะใช้ผลิตภัณฑ์ที่เคยใช้เป็นประจำ
  • ผิวแห้งตึง ไม่เรียบเนียน และลอกเป็นขุย
  • ผิวดูหมองคล้ำ ดูไม่เปล่งปลั่ง 
  • มีผื่นแดงหรือจุดแดงขื้นบ่อย ระคายเคืองง่ายกว่าปกติ
  • เป็นสิวบ่อย และกลับมาเป็นซ้ำในจุดเดิม
  • เริ่มมีริ้วรอยเส้นเล็ก แม้อายุยังไม่มาก

ผิวอ่อนแอ เกิดจากอะไร?

ผิวอ่อนแอเกิดจากทั้งปัจจัยภายนอกและภายในที่ส่งผลต่อความสมดุลของผิว ยกตัวอย่างเช่น

  • พันธุกรรมและฮอร์โมน
    พันธุกรรมมีส่วนทำให้ต่อมไขมันของเราที่ทำงานหนักขึ้น รวมถึงความเครียดและฮอร์โมนแปรปรวนที่กระทบต่อสมดุลผิว
  • แสงแดดและมลภาวะ
    แสงแดดจัดและฝุ่น PM 2.5 ทำร้ายปราการผิวโดยตรง รังสี UV เป็นตัวการที่ทำให้เซลล์ผิวและโครงสร้างคอลลาเจนเสื่อมสภาพ ก่อให้เกิดสารอนุมูลอิสระที่นำไปสู่การอักเสบ จุดด่างดำ และความหมองคล้ำ
    ส่วนฝุ่น ควัน และ PM 2.5 ก็ทำให้ผิวเกิดการอักเสบเช่นกัน อีกทั้งยังทำให้เกิดการอุดตันจนทำให้เกิดเป็นสิว
  • พฤติกรรมในชีวิตประจำวัน
    เช่น การอดนอนหรือนอนดึกที่ทำให้ระดับฮอร์โมนในร่างกายแปรปรวน, การไม่เช็ดเครื่องสำอางก่อนล้างหน้า ทำให้สิ่งสกปรกตกค้างและสะสมอยู่บนผิว หรือ การดื่มน้ำน้อย ซึ่งสาเหตุที่ทำให้ผิวขาดความชุ่มชื้น - พฤติกรรมเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นปัจจัยที่ทำให้ผิวอ่อนแอลงโดยไม่รู้ตัว
    อาหาร
    อาหารรสจัด น้ำตาลสูง หรือของทอด มีส่วนกระตุ้นการอักเสบของเซลล์ และทำให้ต่อมไขมันผลิตน้ำมันผิวมากกว่าเติม จนทำให้ผิวเกิดเป็นสิวได้ง่าย นอกจากนี้ การทานอาหารที่ไม่มีประโยชน์ยังจะทำให้เซลล์ผิวขาดแร่ธาตุและวิตามินที่จำเป็น จนทำให้ฟื้นฟูตัวเองได้ช้าอีกด้วย
  • อากาศร้อน
    สภาพอากาศที่ร้อน โดยเฉพาะในประเทศไทย มีผลให้ผิวสูญเสียน้ำได้ง่ายและทำให้ชั้นไขมันธรรมชาติในปราการผิวเสือมสภาพ นอกจากนี้ อากาศที่ร้อนยังกระตุ้นให้ต่อมไขมันและต่อมเหงื่อของเราทำงานหนักขึ้น นำไปสู่ผิวที่ดูหมองคล้ำ ขาดน้ำ มัน และเกิดอาการแพ้หรือระคายได้ง่าย

เราสามารถสรุปได้เลยว่า ผิวอ่อนแอเกิดได้จากหลายสาเหตุ และก็ทำให้เราเสียความมั่นใจได้อย่างง่าย ๆ เลย แต่ในปัจจุบัน เรามีทางเลือกอย่าง BELO Revive โปรแกรม Skin Glow Booster ที่จะมอบความอิ่มฟู-เนียน-เด้ง-ฉ่ำวาวชุ่มชื้นให้กับผิวหน้าได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ

BELO Revive เคล็บลับผิวแข็งแรง Step Zero ของงานผิว

คนรักผิวหลาย ๆ คน รู้กันอยู่แล้วว่า การสร้างผิวให้แข็งแรงนั้นต้องอาศัยการบำรุงที่สม่ำเสมอ และยังต้องมีการดูแลตัวเองเพื่อให้ผิวดูมีสุขภาพดีจากภายในสู่ภายนอก 

แต่สำหรับคนที่ไม่มีค่อยเวลาให้กับตัวเอง ใช้ชีวิตเร่งรีบจนผิวพัง ไม่อยากแต่งหน้าเยอะแต่ก็กลัวดูโทรม และอยากลดสเต็ปสกินแคร์รูทีนของตัวเอง BELO Revive ก็ถือเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์มาก ๆ ในการฟื้นฟูและกู้ผิวให้กลับมาดูสุขภาพดี

โดย BELO Revive คือ โปรแกรม Skin Glow Booster โดยมีส่วนผสมของไฮยาลูรอนิก แอซิด (Hyaluronic Acid) ซึ่งเป็นไฮยากลุ่ม Cross-linked และ กลีเซอรอล(Glycerol) ซึ่งให้ความชุ่มชื้นให้ผิวได้อย่างล้ำลึก มอบผลลัพธ์ 4 มิติ: ให้ผิวอิ่มฟู-เนียน-เด้ง-ชุ่มชื้นฉ่ำวาว ยาวนานถึง 9 เดือน*

BELO Revive ช่วยเรื่องอะไรบ้าง

  • เติมชุ่มชื้นให้ผิวชั้นลึกและชั้นหนังกำพร้า เพิ่มความฉ่ำวาว
  • ล็อกความความชุ่มชื่นให้กับเซลล์ผิว ให้ผิวดูอิ่มฟูยิ่งขึ้น
  • ปรับปรุงโครงสร้างให้ผิวแข็งแรง เด้งและกระชับ 
  • ฟื้นฟูผิวที่หมองคล้ำจากแสงแดดและมลภาวะ คืนความกระจ่างใสและเรียบเนียน

BELO Revive ยังโดดเด่นด้วย CPM Technology ที่ให้เนื้อเนียนละเอียด โครงสร้างเหมือนผิว เติมแล้วกลืนเข้ากับผิวหน้าได้อย่างเป็นธรรมชาติ โดย 90% ของผู้ใช้ทั่วโลกพึงพอใจ และอยากแนะนำให้เพื่อนและคนใกล้ชิดได้ลอง**

*(ผลลัพธ์ย่อมขึ้นอยู่กับปัญหาผิวและการดูแลของแต่ละบุคคุล)

** (อ้างอิงข้อมูลจาก Hertz-Kleptow D, Hanschmann A, Hofmann M, et al. Facial skin revitalization with CPM-HA20G: an effective and safe early intervention treatment. Clin Cosmet Investig Dermatol. 2019;12:563–572.)

5 วิธีเสริมปราการผิว สร้างผิวแข็งแรง สุขภาพดี

นอกจาก BELO Revive อย่าลืมว่าการดูแลผิวในทุก ๆ วันก็ยังเป็นเรื่องสำคัญ เรายังสามารถดูแลผิวหน้าให้แข็งแรงและมีสุขภาพดีได้ด้วยขั้นตอนง่ายๆ ที่สามารถทำได้ทุกวัน ดังนี้:

1. เลือกผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวที่อ่อนโยน

การล้างหน้าด้วยผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนจะช่วยรักษาสมดุลของปราการผิว  โดยเลือกคลีนซื่งที่มีส่วนผสมอย่างที่ปลอบประโลมผิวอย่าง ว่านหางจรเข้ (Alove Vera) หรือส่วนผสมที่ให้ความชุ่มชื้นอย่าง กลีเซอรีน (Glycerin)

2. ผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยน ไม่ถี่จนเกินไป

การผลัดเซลล์ผิวช่วยขจัดเซลล์ที่ตายแล้วและสิ่งตกค้าง ซึ่งจะช่วยเผยผิวใหม่ที่กระจ่างใสยิ่งขึ้น แต่ถ้าทำบ่อยไปก็อาจเป็นการทำร้ายปราการผิวได้ เราจึงควรผลัดเซลล์ผิวเพียง 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์ และไม่ลืมที่บำรุงด้วยมอยเจอร์ไรเซอร์เพื่อเพิ่มให้ความชุ่มชื้น

3. บำรุงผิวให้ชุ่มชื้นอยู่เสมอ 

ความชุ่มชื้นเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ๆ สำหรับเซลล์ผิว คนที่อยากมีผิวแข็งแรงเลยต้องไม่ลืมบำรุงผิวด้วยมอยส์เจอร์ไรเซอร์ โดยมองหาส่วนผสมอย่าง เซราไมด์ (Ceramide) หรือ ไนอะซินาไมด์ (Niacinamide) ที่มีคุณสมบัติในการเสริมสร้างปราการผิว

สำหรับคนที่มีผิวแพ้ง่าย เป็นผื่นหรือมีจุดแดงบ่อย ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่เป็นแบบ "Hypoallergenic" ที่ออกแบบมาเพื่อผิวอ่อนแอโดยเฉพาะ และอย่าลืมเทสผลิตภัณฑ์ก่อนใช้ เพื่อในแน่ใจว่า ผลิตภัณฑ์ตัวนี้จะเหมาะกับผิวของเราจริง ๆ

4. ไม่ลืมทากันแดด และปกป้องผิวด้วยหมวกหรือร่ม

ก่อนออกจากบ้าน อย่าลืมทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 และ PA+++ อย่างน้อย และถ้าต้องออกแดดจัด หรือทำกิจกรรมกลางแดด อย่าลืมเสริมการป้องกันด้วยหมวกหรือร่มกันยูวี 

5. ปรับพฤติกรรม ดูแลผิวจากภายใน หลีกเลี่ยงปัจจัยที่ทำให้ผิวอ่อนแอ

อย่าลืมว่า สุขภาพกายก็มีผลต่อสุขภาพผิว โดยแค่เพียงปรับพฤติกรรมเล็ก ๆ น้อย ๆ ตามตัวอย่างข้างล่างนี้ก็จะช่วยให้เรามีผิวที่แข็งแรงขึ้นได้แล้ว

  • พักผ่อนให้เพียงพอ
  • ดื่มน้ำอย่างน้อย 8 แก้วต่อวัน
  • หลีกเลี่ยงอาหารของทอด ของมัน หรือของหวาน แล้วเลือกทานอาหารที่ช่วยบำรุงผิว เช่น ผักและผลไม้
  • งดสูบบุหรี่และงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

อย่าลืมว่า ผิวที่แข็งแรง คือ พื้นฐานของความสวยที่ยั่งยืน สำหรับคนที่สนใจ BELO Revive สามารถค้นหาคลินิกผู้ให้บริการ หรือศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับโปรแกรมที่เหมาะกับตัวคุณได้ทางเว็บไซต์ของเรา