ผิวไหม้แดดทำยังไงดี? เข้าใจสาเหตุ อาการ และวิธีการรักษาที่ได้ผล

ไม่ว่าจะเป็นสายเที่ยวทะเลหรือต้องออกแดดบ่อยจากการทำงานกลางแจ้ง อาการ “ผิวไหม้แดด” ก็อาจมาเยือนได้ง่าย ๆ หากละเลยการป้องกัน และไม่เพียงแค่ผิวจะแดง แสบ หรือพองเป็นตุ่ม แต่ยังทิ้งรอยหมองคล้ำที่กว่าจะฟื้นฟูให้กลับมาสว่างกระจ่างใสได้ อาจต้องใช้เวลานาน แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะแก้ไขไม่ได้เลย! 

เพราะวันนี้เรานำเรื่องควรรู้เกี่ยวกับอาการผิวไหม้แดด ทั้งสาเหตุ อาการ และวิธีการรักษาป้องให้ได้ผล ให้ผิวได้ฟื้นฟูกลับสภาพเดิมและพร้อมออกไปใช้ชีวิตอีกครั้ง

‍

ผิวไหม้แดด คืออะไร

ผิวไหม้แดด (Sunburn) คือการที่ผิวหนังได้รับความเสียหายจากรังสี UV ในแสงแดด ส่งผลให้ผิวเกิดอาการอักเสบ โดยเฉพาะในผู้ที่ไม่ได้ทาครีมกันแดดหรืออยู่กลางแดดเป็นเวลานาน

อาการที่พบได้ทั่วไป เช่น

• ผิวแดง 
• แสบเมื่อสัมผัส 
• ผิวแห้งลอก

ซึ่งนอกจากอาการที่ว่ามาแล้ว หลังจากอาการแดงลดลง ผิวจะเริ่มมีสีคล้ำลงเนื่องจากเซลล์ผิวพยายามปกป้องตัวเองด้วยการสร้างเม็ดสีเมลานินเพิ่มขึ้น หรือกลายเป็นผิวคล้ำเสียนั่นเอง โดยปัญหานี้อาจคงอยู่นานหลายสัปดาห์หรือหลายเดือนหากไม่ได้รับการดูแลที่เหมาะสม

‍

สาเหตุของผิวไหม้แดด

สาเหตุหลักของผิวไหม้แดดคือการ สัมผัสกับรังสี UV จากแสงแดดเป็นเวลานาน โดยไม่มีการป้องกันที่เพียงพอ

รังสี UV ที่ทำร้ายผิวของเรามีอยู่ 2 ประเภท ได้แก่ UVA และ UVB โดย UVA เป็นสาเหตุของการเสื่อมสภาพของผิวและริ้วรอยก่อนวัย ส่วน UVB เป็นตัวการสำคัญที่ทำให้ผิวไหม้แดดและมีความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งผิวหนัง

ปัจจัยอื่นๆ ที่ร่วมก่อให้เกิดอาการผิวไหม้แดด เช่น

• ไม่ใช้ครีมกันแดดหรือใช้ในปริมาณที่น้อยเกินไป
• การอยู่กลางแดดในช่วงเวลา 10.00-16.00 น. ซึ่งเป็นช่วงที่รังสี UV แรงที่สุด
• การทำกิจกรรมกลางแจ้งในที่ที่มีการสะท้อนแสง เช่น ทะเล สระว่ายน้ำ เป็นต้น

นอกจากนี้ ผู้ที่มีผิวขาวหรือมีเม็ดสีผิวน้อยจะมีความเสี่ยงต่ออาการผิวไหม้มากกว่าด้วย

‍

วิธีการรักษาผิวไหม้แดดเบื้องต้น

หากเริ่มรู้สึกแสบ แดง ที่ผิวหลังออกแดด เป็นสัญญาณเตือนว่าผิวเริ่มไหม้แดดแล้ว ควรดูแลผิวโดยทันที ด้วยวิธีต่อไปนี้ 

1. หลีกเลี่ยงการสัมผัสแสงแดดเพิ่มเติมทันที เพื่อป้องกันไม่ให้อาการรุนแรงมากขึ้น
2. ลดอุณหภูมิผิวด้วยการอาบน้ำเย็น (ไม่ใช่น้ำแข็ง) หรือประคบด้วยผ้าชุบน้ำเย็นประมาณ 10-15 นาที เพื่อช่วยบรรเทาอาการแสบร้อน
3. ทาครีมหรือเจลว่านหางจระเข้ ซึ่งมีคุณสมบัติในการลดการอักเสบ ปลอดประโลม และเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว
4. ดื่มน้ำมากๆ เพื่อชดเชยความชุ่มชื้นที่ผิวสูญเสียไป
5. สวมเสื้อผ้าที่หลวมและนุ่มเพื่อไม่ให้เสียดสีกับผิวที่บอบบางอยู่
6. ถ้าผิวมีการพอง ควรปรึกษาแพทย์ผิวทันที และหลีกเลี่ยงการเจาะหรือแกะตุ่มน้ำด้วยตัวเองเนื่องจากอาจนำไปสู่การติดเชื้อได้

แต่แน่นอนว่าการดูแลด้วยตัวเองอาจยังไม่เพียงพอ ยิ่งถ้าผิวไหม้แดดไปแล้ว ก็อาจต้องมาหาตัวช่วยดีๆ อย่าง BELO Revive

‍

ฟื้นฟูผิวไหม้แดดให้กลับมากระจ่างใสด้วย BELO Revive

BELO Revive คือ ตัวช่วยบำรุงผิวที่สามารถใช้ได้ทั่วใบหน้า ฟื้นฟูอย่างล้ำลึกไม่ว่าจะเป็นปัญหาผิวขาดความชุ่มชื้นเพียงเล็กน้อย ผิวแห้งเสียจนลอกเป็นขุย หรือผิวที่หมองคล้ำจากแสงแดดและมลภาวะ 

โดย BELO Revive ได้รับการบ่งชี้ให้เป็นตัวเลือกในการรักษาผิวที่ไหม้แดดและหยาบกร้านจากรังสียูวี 

ด้วยไฮยาลูรอนิก แอซิด (Hyaluronic Acid) 20 mg/ml และกลีเซอรอล (Glycerol) 17.5 mg/ml ผสานพลังแบบ 2 in 1 มอบผลลัพธ์แบบ 4 มิติ: ผิวอิ่มฟู-เนียน-เด้ง-ชุ่มชื้นฉ่ำวาว

BELO Revive เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเพิ่มความชุ่มชื้น อิ่มฟู และฉ่ำน้ำให้กับผิว โดยสามารถช่วยลดความแดงของผิว ปรับโทนสีผิวให้สม่ำเสมอกัน และช่วยคืนความกระจ่างใสให้ผิว

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ BELO Revive ได้ที่หน้าเว็บไซต์ของเรา

‍

5 ทริกป้องกันผิวไหม้แดดก่อนผิวเสีย

แน่นอนว่าการป้องกันย่อมดีกว่าการรักษา ยิ่งแดดบ้านเราร้อนแรงไม่แพ้ประเทศไหนในโลก การดูแลผิวให้ปลอดภัยจากรังสี UV จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม ลองดูทริคง่ายๆ เหล่านี้ไว้ใช้ในชีวิตประจำวัน เพื่อผิวสวยใส ไม่เสี่ยงผิวไหม้แดด

1. ใช้ครีมกันแดด

เลือกครีมกันแดดที่มีค่า SPF อย่างน้อย 30 ขึ้นไป และมี PA+++ หรือมากกว่าตามความเหมาะสมของกิจกรรม เพื่อป้องกันทั้งรังสี UVA และ UVB ที่เป็นตัวการทำร้ายผิว และควรทาซ้ำทุก 2 ชั่วโมงหากต้องอยู่กลางแดดนาน 

2. หลีกเลี่ยงการอยู่กลางแดดในช่วงเวลา 10.00-16.00 น.

เพราะช่วงเวลานี้เป็นช่วงที่รังสี UV เข้มข้นที่สุด ถ้าเลี่ยงได้ควรอยู่ในที่ร่ม หรือหากต้องออกข้างนอกจริงๆ ควรเตรียมอุปกรณ์ป้องกันให้พร้อม

3. แต่งตัวให้พร้อมรับแดด

เลือกสวมเสื้อแขนยาวเนื้อผ้าทึบ หมวกปีกกว้าง และแว่นกันแดดที่มีคุณสมบัติป้องกันรังสี UV เพื่อช่วยลดการสัมผัสรังสีแดดโดยตรงกับผิว

4. อย่าอยู่กลางแจ้งเป็นเวลานานเกินไป

โดยเฉพาะในวันที่อากาศร้อนจัด เพราะยิ่งอยู่นานก็ยิ่งเพิ่มความเสี่ยงผิวไหม้ หรือแสบแดงมากขึ้น

5. เช็กสภาพผิวเป็นประจำ

หากเริ่มรู้สึกว่าผิวคล้ำขึ้น แห้งตึง หรือมีรอยแดงผิดปกติ ควรรีบดูแลทันทีด้วยการใช้ครีมบำรุงผิว และสามารถเลือกตัวช่วยอย่าง BELO Revive เพื่อการฟื้นฟูที่ให้ผลเร็ว ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพ

‍

สรุป

ผิวไหม้แดดอาจเป็นเรื่องเล็กในสายตาใครหลายคน แต่หากละเลยการดูแล อาจส่งผลให้ผิวหมองคล้ำเสียหายเรื้อรังได้ เราจึงต้องให้ความสำคัญกับการดูแลผิวก่อนที่จะเกิดปัญหาบานปลาย และแก้ไขได้ยาก